อดีต จนท.ไทย ตั้งกล้องแอบถ่ายห้องน้ำหญิงสถานทูตออสเตรเลียในกทม.

อดีต จนท.ไทย ตั้งกล้องแอบถ่ายห้องน้ำหญิงสถานทูตออสเตรเลียในกทม.

สื่อต่างประเทศแฉ อดีตเจ้าหน้าที่ไทย ตั้งกล้องแอบถ่าย ห้องน้ำหญิง สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยก่อนถูกจับกุมเมื่อเดือนที่ผ่านมา ข่าวการจับกุมอดีตเจ้าหน้าที่คนไทยติด ตั้งกล้องแอบถ่าย สถานฑูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ถูกเปิดเผยวันนี้ (5 ก.พ.65) โดยเว็บไซต์ข่าวเอบีซีนิวส์ของออสเตรเลีย รายงานว่า ตำรวจไทยได้ทำการจับกุม “Bank Thamsongsana” อดีตพนักงานของสถานทูตออสเตรเลียในกรุงเทพฯ เมื่อเดือนที่แล้ว ในข้อหาติดตั้งกล้องแอบถ่ายในห้องน้ำหญิง

ข่าวการตั้งกล้องนี้ กระทรวงกิจการและการค้าต่างประเทศของออสเตรเลีย 

ยังยืนยันว่า การจับกุมตัวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยอดีตพนักงานฉาวรายนี้ ถือสองสัญชาติ ทั้งพลเมืองออสเตรเลียและพลเมืองไทย ซึ่งได้รับการว่าจ้างให้เป็นผู้จัดการระบบไอทีของสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยที่กรุงเทพฯ เพียงไม่นาน

สำหรับสาเหตุที่นำมาสู่การจับกุมเกิดขึ้นหลังจากมีคนพบเอสดีการ์ดของกล้อง บนพื้นห้องน้ำเมื่อปีที่แล้ว โดยหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ทั้งชาวไทยและชาวออสเตรเลียที่สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยต่างกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น จนคดีนี้ทำให้เกิดคำถามอย่างหนัก

โดยเฉพาะประเด็น การติดตั้งกล้องแอบถ่ายเกิดขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อสถานทูตดงักล่าว เป็นสถานที่ที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยแน่นหนา อีกทั้งการแอบตั้งกล้องยังดำเนินไป โดยไม่มีใครรู้เห็นนานหลายปีได้อย่างไร

ส่วนความคืบหน้าของคดี มีรายงานอ้างการให้สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คดีนี้เป็คดีที่ละเอียดอ่อนและเกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมาก

ตอนนี้กำลังมีการตรวจสอบหลักฐานโดยเจ้าหน้าที่นิติเวช ขณะเดียวกัน พนักงานหรือเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ก็กำลังอยู่ระหว่างให้ปากคำกับตำรวจหญิง

นอกจากนี้ ตำรวจยังยืนยันว่ามีการตั้ง 2 ข้อหา ภายใต้มาตราแห่งประมวลกฎหมายอาญาของไทยซึ่งครอบคลุมความผิดทางเพศและการก่อความไม่สงบในที่สาธารณะ มีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี หรือปรับ 20,000 บาท (850 ดอลลาร์) ทั้งนี้ สำนักข่าวเอบีซี ยังได้รับแจ้งว่า “Bank Thamsongsana” วัย 30 ปี ซึ่งแต่งงานแล้ว ได้รับการประกันตัวหลังจากถูกคุมขัง 1 คืน

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งช่วยเหลือ เด็กตกบ่อน้ำ ในประเทศโมร็อกโกที่ติดอยู่ในบ่อ นาน 3 วัน เบื้องต้นเด็กชายยังคงมีสติแต่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว BBC รายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยในประเทศโมร็อกโกได้เร่งช่วยเหลือ รายัน เด็กชายวัย 5 ขวบ ที่พลัดตกลงไปในบ่อน้ำลึกกว่า 32 เมตร หลังจากที่เขาวิ่งเล่นในบริเวณดังกล่าว

โดยภารกิจการช่วยเหลือครั้งนี้ดำเนินมาตั้งแต่วันอังคาร ซึ่งในปัจจุบันเจ้าหน้าที่สามารถขุดรูลงไปได้ 24 เมตรแล้ว แต่ยังไม่สามารถช่วยเหลือ รายัน ได้ ซึ่งสาเหตุที่การช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก บ่อน้ำที่แคบ ซึ่ง เส้นผ่านศูนย์กลางของบ่อน้ำมีขนาดแค่ 25 เซนติเมตรเท่านั้น

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถตักขุดรอบๆบ่อน้ำ โดยทางเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่าพวกเขารู้สึกกังวลหากพวกเขาต้องขุดที่ตัวบ่อโดยตรง เนื่องจากเสี่ยงต่อการทำให้เกิดเหตุดินถล่ม และทำให้รายันได้รับบาดเจ็บได้

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ได้ยื่นอาหาร อ๊อกซิเจน และน้ำดื่มให้กับเด็กชายคนดังกล่าว และจากภาพแสดงให้เห็นว่าหนูน้อยคนนี้ยังมีสติ แต่คาดว่า รายัน น่าจะได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะหลังจากที่เขาตกลงไปในบ่อน้ำ

แม่โดนจวก หลัง ให้นมลูกผ่านเต้า ว่าเป็น การล่วงละเมิดทางเพศ

แม่วัย 20 ปีโดนจวก หลัง ให้นมลูกผ่านเต้า ว่าเป็น การล่วงละเมิดทางเพศ เจอคุณแม่สวนคนคอมเม้นท์มีจิตใจสกปรก เมื่อวันที่ 27 มกราคม สำนักข่าว เดอะ มิลเลอร์ รายงานว่า เจซี่ หญิงวัย 20 ปี ซึ่งเป็นแม่และผู้ใช้ TikTok ที่มักจะผลิตเนื้อหาเชิงสนับสนุนการป้อนนมลูกจากเต้าจนไปถึงช่วงอายุ 6 ปี ซึ่งจากผลิตเนื้อหาดังกล่าวทำให้เธอถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมและบางคนมองว่าการป้อนนมลูกจากเต้าถึง 6 ปี อาจจะมากเกินไป

อย่างไรก็ตามมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตคนหนึ่งได้วิจารณ์ว่าการให้ลูกนมจากเต้าถึง 6 ขวบ เป็นการล่วงละเมิดทางเพศลูกสาว ซึ่ง เจซี่ ก็ไม่นิ่งเฉยกับความเห็นดังกล่าวและตอกกลับผู้โพสต์ว่า “การป้อนนมลูกจากเต้าไม่ใช่การล่วงละเมิดทางเพศ และไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องเพศกับการดื่มนมของเด็กเลย”

“เพียงเพราะคุณมองเรื่องการให้นมลูกจากเต้าเป็นเรื่องเพศ ไม่ได้หมายความว่าเด็กมองแบบนั้น เด็กมองว่าการดื่มนมเป็นการเติมเต็มสารอาหาร คุณไม่มีลูกเลยด้วยซ้ำ คุณควรหยุดพูดได้แล้ว”

แม้ว่าหลายคนจะไม่เห็นด้วยถึงวิธีการเลี้ยงลูกของเธอ แต่ในประเด็นเรื่องละเมิดทางเพศนั้น หลายคนได้เห็นตรงกับ เจซี่ ว่าการป้อนนมลูกจากเต้าไม่ใช่เรื่องเพศและไม่ได้เป็นการล่วงละเมิดทางเพศอีกด้วย

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมีฝนตกหนักมากกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในภาคตะวันออก

ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากลมกระโชกแรง ฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มในระยะนี้ไว้ด้วย

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป